Menu Close

หมูเถื่อน

หมูเถื่อน

หมูเถื่อน ทำลายห่วงโซ่การผลิต

สัตวแพทย์เตือน “หมูเถื่อน” เสี่ยงของแถมสารเร่งเนื้อแดงก่อมะเร็ง ผู้บริโภคต้องระวังอย่าเห็นแก่ของถูก เร่งภาครัฐปราบปรามเคร่งครัดจริงจัง หวังหยุดผลกระทบระยะยาว ทั้งสุขภาพประชาชนและบิดเบือนกลไกราคาก่อนอุตสาหกรรมสุกรไทยล่มสลาย

 

วันที่ 8 กันยายน 2565 นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ รองเลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หมูเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีโอกาสปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงเนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี

 

     เนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี“หมูเถื่อน เป็นหนึ่งในภัยใกล้ตัวพวกเรามาก เนื่องจากเป็นอันตรายทั้งต่อผู้บริโภค ผู้เลี้ยง และอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งผู้บริโภคซื้อเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างไปรับประทาน อาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ อาการหัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน และจะแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับกลุ่มสตรีมีครรภ์

 

 ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ซึ่งในสถานการณ์เงินเฟ้อสูง ผู้บริโภคจะเลือกของถูก แต่อาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะได้รับสารสะสมในอนาคต” นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าว


นอกจากนี้ หมูเถื่อนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บิดเบือนกลไกราคา เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ตลาดต่างประเทศไม่ต้องการ ทำให้สามารถขายในราคา 135-145 บาทต่อกิโลกรัมได้ เทียบกับหมูเนื้อแดงไทยขณะนี้ที่ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูผิดกฎหมายล่อใจผู้บริโภคมาก ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงของเกษตรกรไทยที่มีต้นทุนสูงมาก จากการทำระบบไบโอซีเคียวริตี้เพื่อป้องกัน ASF และยังต้องแบกรับภาระวัตถุดิบอาหารที่ปรับสูงขึ้น 30% ราคาน้ำมัน จากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงในอาชีพของผู้เลี้ยงหมู

 

 

Pigatron 13 Temp

 

   “ต้นทุนการเลี้ยงหมูในต่างประเทศต่ำกว่าของไทยมาก ภาครัฐจึงควรปกป้องและดำเนินการกับหมูเถื่อนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูไทยกว่า 2 แสนคน ที่เลี้ยงหมูได้ 22 ล้านตัวต่อปี ต้องล้มหายตายจากไปกันหมด และไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ รวมถึงภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย ที่ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ต่างเชื่อมโยงกัน” นายสัตวแพทย์วรวุฒิย้ำ

 

   นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าวด้วยว่า ปกติคนเอเชียกินหมูทุกส่วน ทั้งเนื้อหมู หัว เครื่องใน หนัง มัน ฯลฯ โดยเฉพาะคนไทยที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างออกไป ทั้งการกินหมูแบบสุก แบบดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก เช่น ลาบ หลู้ และเนื้อแดง ผิดกับชาวยุโรปและอเมริกันที่รับประทานเฉพาะเนื้อหมู ความพยายามส่งผลิตภัณฑ์หมูที่เคลือบสารเร่งเนื้อแดงเป็นของแถมมาให้คนไทยกินนี้ ยังโชคดีที่รัฐบาลไทยยังคงยืนหยัดปกป้องคนไทย ด้วยใช้เหตุผลด้านผลกระทบต่อสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน ในการคัดค้านการนำเข้าชิ้นส่วนหมูมาตลอดจนถึงปัจจุบัน


 

 

หมูเถื่อน ทำลายห่วงโซ่การผลิต

สัตวแพทย์เตือน “หมูเถื่อน” เสี่ยงของแถมสารเร่งเนื้อแดงก่อมะเร็ง ผู้บริโภคต้องระวังอย่าเห็นแก่ของถูก เร่งภาครัฐปราบปรามเคร่งครัดจริงจัง หวังหยุดผลกระทบระยะยาว ทั้งสุขภาพประชาชนและบิดเบือนกลไกราคาก่อนอุตสาหกรรมสุกรไทยล่มสลาย

 

วันที่ 8 กันยายน 2565 นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ รองเลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หมูเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีโอกาสปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงเนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี

 

     เนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี“หมูเถื่อน เป็นหนึ่งในภัยใกล้ตัวพวกเรามาก เนื่องจากเป็นอันตรายทั้งต่อผู้บริโภค ผู้เลี้ยง และอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งผู้บริโภคซื้อเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างไปรับประทาน อาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ อาการหัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน และจะแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับกลุ่มสตรีมีครรภ์

 

 ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ซึ่งในสถานการณ์เงินเฟ้อสูง ผู้บริโภคจะเลือกของถูก แต่อาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะได้รับสารสะสมในอนาคต” นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าว


นอกจากนี้ หมูเถื่อนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บิดเบือนกลไกราคา เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ตลาดต่างประเทศไม่ต้องการ ทำให้สามารถขายในราคา 135-145 บาทต่อกิโลกรัมได้ เทียบกับหมูเนื้อแดงไทยขณะนี้ที่ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูผิดกฎหมายล่อใจผู้บริโภคมาก ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงของเกษตรกรไทยที่มีต้นทุนสูงมาก จากการทำระบบไบโอซีเคียวริตี้เพื่อป้องกัน ASF และยังต้องแบกรับภาระวัตถุดิบอาหารที่ปรับสูงขึ้น 30% ราคาน้ำมัน จากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงในอาชีพของผู้เลี้ยงหมู

 

 

Pigatron 13 Temp

 

   “ต้นทุนการเลี้ยงหมูในต่างประเทศต่ำกว่าของไทยมาก ภาครัฐจึงควรปกป้องและดำเนินการกับหมูเถื่อนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูไทยกว่า 2 แสนคน ที่เลี้ยงหมูได้ 22 ล้านตัวต่อปี ต้องล้มหายตายจากไปกันหมด และไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ รวมถึงภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย ที่ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ต่างเชื่อมโยงกัน” นายสัตวแพทย์วรวุฒิย้ำ

 

   นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าวด้วยว่า ปกติคนเอเชียกินหมูทุกส่วน ทั้งเนื้อหมู หัว เครื่องใน หนัง มัน ฯลฯ โดยเฉพาะคนไทยที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างออกไป ทั้งการกินหมูแบบสุก แบบดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก เช่น ลาบ หลู้ และเนื้อแดง ผิดกับชาวยุโรปและอเมริกันที่รับประทานเฉพาะเนื้อหมู ความพยายามส่งผลิตภัณฑ์หมูที่เคลือบสารเร่งเนื้อแดงเป็นของแถมมาให้คนไทยกินนี้ ยังโชคดีที่รัฐบาลไทยยังคงยืนหยัดปกป้องคนไทย ด้วยใช้เหตุผลด้านผลกระทบต่อสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน ในการคัดค้านการนำเข้าชิ้นส่วนหมูมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

หมูเถื่อน ทำลายห่วงโซ่การผลิต

 
สัตวแพทย์เตือน “หมูเถื่อน” เสี่ยงของแถมสารเร่งเนื้อแดงก่อมะเร็ง ผู้บริโภคต้องระวังอย่าเห็นแก่ของถูก เร่งภาครัฐปราบปรามเคร่งครัดจริงจัง หวังหยุดผลกระทบระยะยาว ทั้งสุขภาพประชาชนและบิดเบือนกลไกราคาก่อนอุตสาหกรรมสุกรไทยล่มสลาย
 
วันที่ 8 กันยายน 2565 นายสัตวแพทย์วรวุฒิ ศิริปุณย์ รองเลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หมูเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่รัฐ 
 
มีโอกาสปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงเนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี
 
     เนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายเป็นเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่คนอเมริกันและยุโรปไม่บริโภค ไม่ว่าจะขา หัว และเครื่องในหมู เป็นชิ้นส่วนที่คนในประเทศทางตะวันตกไม่บริโภค การลักลอบนำเข้าจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลือทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ซึ่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการนำเข้ามานี้ เต็มไปด้วยสารแรกโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ และบางประเทศของยุโรปสามารถใช้ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี“หมูเถื่อน 
 
เป็นหนึ่งในภัยใกล้ตัวพวกเรามาก เนื่องจากเป็นอันตรายทั้งต่อผู้บริโภค ผู้เลี้ยง และอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งผู้บริโภคซื้อเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างไปรับประทาน อาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ อาการหัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน และจะแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับกลุ่มสตรีมีครรภ์
 
 ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ซึ่งในสถานการณ์เงินเฟ้อสูง ผู้บริโภคจะเลือกของถูก แต่อาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะได้รับสารสะสมในอนาคต” นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ หมูเถื่อนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่บิดเบือนกลไกราคา เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ตลาดต่างประเทศไม่ต้องการ ทำให้สามารถขายในราคา 135-145 บาทต่อกิโลกรัมได้ เทียบกับหมูเนื้อแดงไทยขณะนี้ที่ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม 
 
ราคาหมูผิดกฎหมายล่อใจผู้บริโภคมาก ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงของเกษตรกรไทยที่มีต้นทุนสูงมาก จากการทำระบบไบโอซีเคียวริตี้เพื่อป้องกัน ASF และยังต้องแบกรับภาระวัตถุดิบอาหารที่ปรับสูงขึ้น 30% ราคาน้ำมัน จากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงในอาชีพของผู้เลี้ยงหมู
 
 
Pigatron 13 Temp
 
   “ต้นทุนการเลี้ยงหมูในต่างประเทศต่ำกว่าของไทยมาก ภาครัฐจึงควรปกป้องและดำเนินการกับหมูเถื่อนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูไทยกว่า 2 แสนคน ที่เลี้ยงหมูได้ 22 ล้านตัวต่อปี ต้องล้มหายตายจากไปกันหมด และไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ รวมถึงภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย ที่ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ต่างเชื่อมโยงกัน” นายสัตวแพทย์วรวุฒิย้ำ
 
   นายสัตวแพทย์วรวุฒิกล่าวด้วยว่า ปกติคนเอเชียกินหมูทุกส่วน ทั้งเนื้อหมู หัว เครื่องใน หนัง มัน ฯลฯ โดยเฉพาะคนไทยที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างออกไป ทั้งการกินหมูแบบสุก แบบดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก เช่น ลาบ หลู้ และเนื้อแดง ผิดกับชาวยุโรปและอเมริกันที่รับประทานเฉพาะเนื้อหมู ความพยายามส่งผลิตภัณฑ์หมูที่เคลือบสารเร่งเนื้อแดงเป็นของแถมมาให้คนไทยกินนี้ ยังโชคดีที่รัฐบาลไทยยังคงยืนหยัดปกป้องคนไทย ด้วยใช้เหตุผลด้านผลกระทบต่อสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน ในการคัดค้านการนำเข้าชิ้นส่วนหมูมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

 

 

PIGATRON 13

คุณสมบัติ PIGATRON 13


1. มีจอแสดงแสดงผลตัวเลขของอุณหภูมิหน่วย C , ตัวเลขแสดงผลของความชื้นสัมพัทธ์หน่วย %RH ความเร็วของพัดลม วันที่ เวลา
และมีขนาดตัวเลขที่เหมาะสมสามารถเห็นแม้อยู่ในที่แสงสว่างน้อย
2. มีหลอดไฟแสดงสถานการ เปิด –ปิด ของอุปกรณ์ที่ควบคุมต่าง ๆ
3. กล่องควบคุมได้มาตรฐาน IP 56 ผลิตจากประเทศอิตาลี สามารถป้องกัน น้้า, ความชื้น และ ฝุ่น
4. ใช้ไฟฟ้า 100~240 VAC 50-60 Hz มีระบบเก็บข้อมูลแม้ว่าไฟฟ้าดับ ข้อมูลจะไม่สูญหาย
5. ตัวเลขแสดงอุณหภูมิ มีความละเอียด 0.1
C และ ความชื้น 0.1%RH
6. มีระบบปรับแต่งค่า (Recalibrate) ทั้งอุณหภูมิและความชื้น
 

7. สามารถเก็บข้อมูลค่าสูงสุดและต่้าสุดของอุณหภูมิ(Temperature), ความชื้น(Humidity) ของแต่ละวันย้อนหลังได้ 2 วัน
8. สามารถตั้งโปรแกรมอุณหภูมิส้าหรับพัดลม (T-curve) ปั๊มน้้า (C-curve) ฮีทเตอร์ (H-curve) ตามอายุของสัตว์ที่เลี้ยงได้ 15 ช่วง
9. สามารถเพิ่มการระบายอากาศควบคุมโดยความชื้น, คาร์บอนไดออกไซด์ (CO
2) และแอมโมเนีย (NH3) ได้ 24 โปรแกรม
10. สามารถเลือกการ เปิด-ปิด พัดลมแบบ ตามช่วงเวลาได้ 24 โปรแกรม
11. สามารถตั้งโปรแกรมอุณหภูมิ ความเร็วลม สูงสุด ต่้าสุดตามอายุสัตว์ที่เลี้ยงได้ 15 ช่วง
12. สามารถแสดงอายุของสัตว์ที่เลี้ยง (Growth Day) ได้ตั้งแต่ 0 – 999 วัน
 

13. สามารถตั้งโปรแกรม เปิด –ปิด แสงสว่าง (Light) ได้ 24 โปรแกรม
14. มีระบบการแจ้งเตือน เมื่ออุณภูมิสูงหรือต่้า, เมื่อความชื้นสูงหรือต่้า และเมื่อเซนเซอร์ผิดปกติ (Alarm, High/Low Temperature
Alarm, High/Low Humidity Alarm and Alarm Sensor)
15. สามารถเก็บข้อมูลอุณหภูมิ ความชื้น การท้างานของพัดลม ปั๊มน้้า alarm ได้ 1,000 เหตุการณ์ (เก็บข้อมูลทุก ๆ 15 นาที ได้ 10 วัน)
16. มีระบบถ่ายข้อมูลในการควบคุมไปยังเครื่องควบคุมอื่นได้ (Data Loader) เพื่อเป็นการลดเวลาในการป้อนข้อมูลในกรณีมีโรงเรือน
หลาย ๆ หลัง(อุปกรณ์เสริม)
17. มีระบบเชื่อมต่อเครือข่ายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส้านักงานได้ สูงสุดได้ 30 เครื่องต่อ 1 คอมพิวเตอร์ (Link Data Network)
 

18. มีระบบหน่วงเวลาการท้างานของเครื่องแต่ละเครื่องเพื่อป้องกันกรณีที่ไฟฟ้าดับเมื่อไฟฟ้ามาแล้วท้าให้ระบบสั่งงานพร้อมกันหลายๆ
เครื่อง โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าเวลาเพื่อให้เครื่องนับถอยหลังได้
19. มีระบบหน่วงเวลาของการสั่งเปิดพัดลมพร้อม ๆ กันหลาย ๆ ตัว ระบบจะสั่งเปิดพัดลมทีละตัวห่างกัน 3 วินาท
https://siamwaterflame.com/
 

โรงเรือนเลี้ยงสุกร

Posted in สาระน่ารู้

Related Posts

error: เนื้อหาได้รับการคุ้มครอง !!