Menu Close

กรมปศุสัตว์เร่งยกระดับฟาร์มหมูเข้าระบบ “GFM”

กรมปศุสัตว์เร่งยกระดับฟาร์มหมูเข้าระบบ “GFM”

 
กรมปศุสัตว์เร่งยกฟาร์มหมูสู่ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม “GFM” ในเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย พร้อมออกมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจาก “โรค ASF”
 
กรมปศุสัตว์มีนโยบายให้ขับเคลื่อนฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (GFM : Good Farm Management) เพื่อยกระดับการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย
ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ซึ่งเป็นการลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย
ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM)
 
ประกอบด้วยการจัดการ 8 หัวข้อ คือ
– การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้าง
– การจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์
– การจัดการยานพาหนะ
– การจัดการบุคคล
– การจัดการด้านสุขภาพ
– การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์
– การจัดการข้อมูล
– การจัดการสิ่งแวดล้อม
 
ซึ่งเกษตรกรสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้ต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดโรคระบาดได้
 
กรมปศุสัตว์ยังวางมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูการเลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กและรายย่อยนั้น ในระยะแรก
 
กรมปศุสัตว์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ให้คำแนะนำและสำรวจความต้องการการเลี้ยงสุกรของเกษตรกร ภายใต้มาตรการประเมินความเสี่ยง
 
และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ดี ที่ถูกต้อง และมีความพร้อมในการเลี้ยงสุกรใหม่ภายใต้
 
ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)
 
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังมีมาตรการส่งเสริม สนับสนุน ปัจจัยการผลิตที่จำเป็น เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร เช่น พันธุ์สัตว์ราคาถูก 
(ลูกสุกรขุน สุกรแม่พันธุ์)
โดยกรมปศุสัตว์และเครือข่ายผู้เลี้ยงสุกร การให้คำแนะนำด้านพืชอาหารสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งประสานหาแหล่งทุนสนับสนุนการเลี้ยงสุกร โดย ธ.ก.ส. (โครงการสานฝันสร้างอาชีพฯ
รายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี) กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (กลุ่มวิสาหกิจ/กลุ่มจดทะเบียน/สหกรณ์) เป็นต้น
 
กรมปศุสัตว์จึงเร่งผลักดันและส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจในการเลี้ยงสัตว์และการจัดการที่ถูกต้อง โดยปัจจุบันกรมปศุสัตว์มีการรับรองฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในปศุสัตว์ 10 ชนิด
 
ได้แก่ สัตว์ปีกพื้นเมือง ก่ไข่ เป็ดเนื้อ เป็ดไข่ โคนม โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ และ สุกร เกษตรกรที่มีความสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ณ ท้องที่ที่สถานที่เลี้ยงสัตว์ตั้งอยู่
 
 

กรมปศุสัตว์เร่งยกระดับฟาร์มหมูเข้าระบบ “GFM”

กรมปศุสัตว์เร่งยกฟาร์มหมูสู่ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม “GFM” ในเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย พร้อมออกมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจาก “โรค ASF”

 

กรมปศุสัตว์มีนโยบายให้ขับเคลื่อนฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (GFM : Good Farm Management) เพื่อยกระดับการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย
ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ซึ่งเป็นการลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย

ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM)

 

ประกอบด้วยการจัดการ 8 หัวข้อ คือ
– การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้าง
– การจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์
– การจัดการยานพาหนะ
– การจัดการบุคคล
– การจัดการด้านสุขภาพ
– การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์
– การจัดการข้อมูล
– การจัดการสิ่งแวดล้อม

 

ซึ่งเกษตรกรสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้ต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดโรคระบาดได้

 

กรมปศุสัตว์ยังวางมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูการเลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กและรายย่อยนั้น ในระยะแรก

กรมปศุสัตว์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ให้คำแนะนำและสำรวจความต้องการการเลี้ยงสุกรของเกษตรกร ภายใต้มาตรการประเมินความเสี่ยง

และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ดี ที่ถูกต้อง และมีความพร้อมในการเลี้ยงสุกรใหม่ภายใต้

 

ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)

 

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังมีมาตรการส่งเสริม สนับสนุน ปัจจัยการผลิตที่จำเป็น เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร เช่น พันธุ์สัตว์ราคาถูก 

(ลูกสุกรขุน สุกรแม่พันธุ์)

 

โดยกรมปศุสัตว์และเครือข่ายผู้เลี้ยงสุกร การให้คำแนะนำด้านพืชอาหารสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งประสานหาแหล่งทุนสนับสนุนการเลี้ยงสุกร โดย ธ.ก.ส. (โครงการสานฝันสร้างอาชีพฯรายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี) กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (กลุ่มวิสาหกิจ/กลุ่มจดทะเบียน/สหกรณ์) เป็นต้น

 

กรมปศุสัตว์จึงเร่งผลักดันและส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจในการเลี้ยงสัตว์และการจัดการที่ถูกต้อง โดยปัจจุบันกรมปศุสัตว์มีการรับรองฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในปศุสัตว์ 10 ชนิด

 

ได้แก่ สัตว์ปีกพื้นเมือง ไก่ไข่ เป็ดเนื้อ เป็ดไข่ โคนม โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ และ สุกร เกษตรกรที่มีความสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ณ ท้องที่ที่สถานที่เลี้ยงสัตว์ตั้งอยู่

 
 
กรมปศุสัตว์เร่งยกระดับฟาร์มหมูเข้าระบบ “GFM”
กรมปศุสัตว์เร่งยกฟาร์มหมูสู่ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม “GFM” ในเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย พร้อมออกมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจาก “โรค ASF”
 
กรมปศุสัตว์มีนโยบายให้ขับเคลื่อนฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (GFM : Good Farm Management) เพื่อยกระดับการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย
ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ซึ่งเป็นการลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย
ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM)
 
ประกอบด้วยการจัดการ 8 หัวข้อ คือ
– การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้าง
– การจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์
– การจัดการยานพาหนะ
– การจัดการบุคคล
– การจัดการด้านสุขภาพ
– การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์
– การจัดการข้อมูล
– การจัดการสิ่งแวดล้อม
 
ซึ่งเกษตรกรสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้ต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดโรคระบาดได้
 
กรมปศุสัตว์ยังวางมาตรการส่งเสริมและฟื้นฟูการเลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กและรายย่อยนั้น ในระยะแรก
 
กรมปศุสัตว์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ให้คำแนะนำและสำรวจความต้องการการเลี้ยงสุกรของเกษตรกร ภายใต้มาตรการประเมินความเสี่ยง
 
และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ดี ที่ถูกต้อง และมีความพร้อมในการเลี้ยงสุกรใหม่ภายใต้
 
ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังมีมาตรการส่งเสริม สนับสนุน ปัจจัยการผลิตที่จำเป็น เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร 
เช่น พันธุ์สัตว์ราคาถูก (ลูกสุกรขุน สุกรแม่พันธุ์)
 
โดยกรมปศุสัตว์และเครือข่ายผู้เลี้ยงสุกร การให้คำแนะนำด้านพืชอาหารสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งประสานหาแหล่งทุนสนับสนุนการเลี้ยงสุกร โดย ธ.ก.ส. (โครงการสานฝันสร้างอาชีพฯ
 
รายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี) กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (กลุ่มวิสาหกิจ/กลุ่มจดทะเบียน/สหกรณ์) เป็นต้น
 
กรมปศุสัตว์จึงเร่งผลักดันและส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจในการเลี้ยงสัตว์และการจัดการที่ถูกต้อง โดยปัจจุบันกรมปศุสัตว์มีการรับรองฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในปศุสัตว์ 10 ชนิด
 
ได้แก่ สัตว์ปีกพื้นเมือง ไก่ไข่ เป็ดเนื้อ เป็ดไข่ โคนม โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ และ สุกร เกษตรกรที่มีความสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ณ ท้องที่ที่สถานที่เลี้ยงสัตว์ตั้งอยู่
 
 

PIGATRON 13

คุณสมบัติ PIGATRON 13


1. มีจอแสดงแสดงผลตัวเลขของอุณหภูมิหน่วย C , ตัวเลขแสดงผลของความชื้นสัมพัทธ์หน่วย %RH ความเร็วของพัดลม วันที่ เวลา
และมีขนาดตัวเลขที่เหมาะสมสามารถเห็นแม้อยู่ในที่แสงสว่างน้อย
2. มีหลอดไฟแสดงสถานการ เปิด –ปิด ของอุปกรณ์ที่ควบคุมต่าง ๆ
3. กล่องควบคุมได้มาตรฐาน IP 56 ผลิตจากประเทศอิตาลี สามารถป้องกัน น้้า, ความชื้น และ ฝุ่น
4. ใช้ไฟฟ้า 100~240 VAC 50-60 Hz มีระบบเก็บข้อมูลแม้ว่าไฟฟ้าดับ ข้อมูลจะไม่สูญหาย
5. ตัวเลขแสดงอุณหภูมิ มีความละเอียด 0.1
C และ ความชื้น 0.1%RH
 

6. มีระบบปรับแต่งค่า (Recalibrate) ทั้งอุณหภูมิและความชื้น
7. สามารถเก็บข้อมูลค่าสูงสุดและต่้าสุดของอุณหภูมิ(Temperature), ความชื้น(Humidity) ของแต่ละวันย้อนหลังได้ 2 วัน
8. สามารถตั้งโปรแกรมอุณหภูมิส้าหรับพัดลม (T-curve) ปั๊มน้้า (C-curve) ฮีทเตอร์ (H-curve) ตามอายุของสัตว์ที่เลี้ยงได้ 15 ช่วง
9. สามารถเพิ่มการระบายอากาศควบคุมโดยความชื้น, คาร์บอนไดออกไซด์ (CO
2) และแอมโมเนีย (NH3) ได้ 24 โปรแกรม
10. สามารถเลือกการ เปิด-ปิด พัดลมแบบ ตามช่วงเวลาได้ 24 โปรแกรม
 

11. สามารถตั้งโปรแกรมอุณหภูมิ ความเร็วลม สูงสุด ต่้าสุดตามอายุสัตว์ที่เลี้ยงได้ 15 ช่วง
12. สามารถแสดงอายุของสัตว์ที่เลี้ยง (Growth Day) ได้ตั้งแต่ 0 – 999 วัน
13. สามารถตั้งโปรแกรม เปิด –ปิด แสงสว่าง (Light) ได้ 24 โปรแกรม
14. มีระบบการแจ้งเตือน เมื่ออุณภูมิสูงหรือต่้า, เมื่อความชื้นสูงหรือต่้า และเมื่อเซนเซอร์ผิดปกติ (Alarm, High/Low Temperature
Alarm, High/Low Humidity Alarm and Alarm Sensor)
15. สามารถเก็บข้อมูลอุณหภูมิ ความชื้น การท้างานของพัดลม ปั๊มน้้า alarm ได้ 1,000 เหตุการณ์ (เก็บข้อมูลทุก ๆ 15 นาที ได้ 10 วัน)
 

16. มีระบบถ่ายข้อมูลในการควบคุมไปยังเครื่องควบคุมอื่นได้ (Data Loader) เพื่อเป็นการลดเวลาในการป้อนข้อมูลในกรณีมีโรงเรือน
หลาย ๆ หลัง(อุปกรณ์เสริม)
17. มีระบบเชื่อมต่อเครือข่ายมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส้านักงานได้ สูงสุดได้ 30 เครื่องต่อ 1 คอมพิวเตอร์ (Link Data Network)
18. มีระบบหน่วงเวลาการท้างานของเครื่องแต่ละเครื่องเพื่อป้องกันกรณีที่ไฟฟ้าดับเมื่อไฟฟ้ามาแล้วท้าให้ระบบสั่งงานพร้อมกันหลายๆ
เครื่อง โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าเวลาเพื่อให้เครื่องนับถอยหลังได้
19. มีระบบหน่วงเวลาของการสั่งเปิดพัดลมพร้อม ๆ กันหลาย ๆ ตัว ระบบจะสั่งเปิดพัดลมทีละตัวห่างกัน 3 วินาท
https://siamwaterflame.com/
 

โรงเรือนเลี้ยงสุกร

Posted in สาระน่ารู้

Related Posts

error: เนื้อหาได้รับการคุ้มครอง !!